รู้หรือไม่...รถหายในห้าง ....ใครรับผิดชอบ

คุณรู้หรือไม่ ? กรณีรถหายในห้างสรรพสินค้า ห้างฯ ไม่จ่ายบัตรรับรถแต่ใช้กล้องวีดีโอแทน ลูกค้านำรถไปจอดแล้วรถหาย ห้างฯ ต้องรับผิดชอบหรือไม่ ?

เดิมทีกรณเช่นนี้เคยมีการพิพากษาจากศาลฎีกาว่า กรณีที่ห้างฯ ให้นำรถมาจอดแล้วแลกบัตรผ่าน ห้างฯ ต้องรับผิดต่อกรณีรถหาย เพราะมีการแลกบัตรจึงต้องมีการตรวจสอบการเข้าออกของรถอย่างดี ซึ่งจากคดีที่เคยผ่านมาห้างฯ โยนความผิดให้ รปภ. ว่า รปภ.ประมาทเลินเล่อ ห้างไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ศาลฎีกาไม่เห็นด้วยโดยให้เหตุผลว่า ทางห้างฯ เป็นผู้ว่าจ้าง รปภ. ดังนั้น รปภ. เปรียบเสมือนตัวแทนของห้าง เมื่อความเสียหายเกิดจากตัวแทนหรือผู้ว่าจ้างตัวแทนอย่างห้างฯ ต้องรับผิดอย่างเลี่ยงไม่ได้

หลังจากแพ้คดีดังกล่าว ห้างสรรพสินค้าบางแห่งจึงเลิกแจกบัตรผ่าน แล้วหันมาใช้กล้อง วีดีโอตรวจแทน ซึ่งห้างฯ เชื่อว่าหากเกิดกรณีรถหายภายในห้างฯ ตนจะได้ไม่ต้องรับผิด และปฎิเสธความรับผิด โดยอ้างว่า ห้างฯ ไม่ต้องรับผิดเพราะห้างฯ ไม่ได้รับฝากรับ ดูแล และไม่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบ ซึ่งในปัจจุบันหากเกิดการฟ้องร้องดังกล่าวศาลฎีกาจะวินิจฉัยว่า

"...ห้างฯ ต้องให้ความสำคัญกับลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นสินค้า ความปลอดภัย ความสะดวกสะบาย รวมทั้งพรบ.ควบคุมอาคาร ก็ยังบังคับให้ห้างฯ ต้องมีพื้นที่จอดรถภายในอาคารเพื่อความสะดวกแก่การจราจร อีกทั้งยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าต่อชีวิต และทรัพย์สิน รวมไปถึงมีหน้าที่ต้องดูแลตามสมควร มิใช่ปล่อยให้ลูกค้าต้องระวังหรือเสี่ยงภัยเอาเอง อีกทั้งก่อนนั้น มีการแจกบัตรเข้าออกเพื่อตรวจตราและเข้มงวด แต่ห้างฯ กลับยกเลิกการรับบัตรอันเป็นการเพิ่มความเสี่ยงซึ่งห้างฯ รู้ดี ดังนั้นห้างฯ จึงต้องรับผิดใช้ค่าสินใหมทดแทนต่อลูกค้า”

เมื่อรู้เช่นนี้แล้วลูกค้ามีรถที่เข้ามาใช้บริการห้างฯ ต่างๆ หลายคนก็คงเบาใจขึ้น แต่ก็อย่าไว้ใจอย่าประมาท อย่าเลินเล่อไป เพราะยุคนี้อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ เราลองมาดูวิธีดูแลและป้องกันรถของคุณในกรณีจอดในห้างฯ กันดีกว่า

สิ่งแรกคือ การหาที่จอดรถ ไม่ควรจอดในที่เปลี่ยว ลับตาคน หรือจอดค้างคืนไว้เป็นเวลานานจนคนร้ายขโมยได้ง่าย จอดในบริเวณที่แสงสว่างส่องถึง และหากเป็นไปได้ควรจอดในบริเวณที่มีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ด้วยยิ่งดี

ต่อมาคือ ป้องกันการถูกปั้มกุญแจ เช่น เวลานำรถไปซ่อม หรือล้างอัดฉีดต่างๆ โจรอาจจะใช้เวลาที่เราเผลอแอบปั้มลูกกุญแจและสะกดรอยตาม เวลานำรถไปซ่อม หรือล้างรถจึงควรทิ้งไว้เฉพาะกุญแจรถเท่านั้น กุญแจล็อคแบบอื่นๆ ต้องเก็บไว้ให้หมด

เป็นหูเป็นตาให้กับตำรวจ ถ้าพบเห็นบุคคลที่มีพฤติกรรม หรือกำลังโจรกรรมให้รีบแจ้งเพื่อจับกุม โดยแจ้งไปที่ จส.100 สายด่วนรถหายได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 0 2711 9160 เพื่อออกอากาศในสถานีวิทยุเพื่อมีผู้ที่เห็นรถที่หายขับอยู่บนท้องถนน / โทรแจ้ง ศปร.ตร ที่เบอร์ 1192 เพื่อความรวดเร็วในการกระจายข่าวไปในทุกหน่วยงานในพื้นที่ / แจ้งความที่โรงพัก และสถานีตำรวจใกล้บ้านให้รวดเร็วที่สุด เพื่อตำรวจได้รีบออกติดตามคนร้าย / บอกต่อเพื่อนฝูง คนสนิทที่รู้จักทั้งหมด ให้รีบกระจายข่าวเพื่อไล่ออกติดตาม และสุดท้ายคือ ติดตาม และสอดส่องในจุดที่สันนิฐานว่าคนร้ายใช้เส้นทางใดหลบหนี หรือพบเห็นบุคคลต้องสงสัย ให้รีบแจ้งความดำเนินคดี